ทำไมเว็บไซต์ถึงไม่ประสบความสำเร็จในการทำ SEO?
สมัยก่อนการเพิ่ม Backlink หรือ Inbound Link สามารถช่วยให้อันดับดีขึ้นได้อย่างรวดเร็ว
แต่ปัจจุบันนั้น กูเกิลได้เน้นที่คุณภาพของคอนเทนท์ การเพิ่มแต่ลิงค์เพียงอย่างเดียว
จึงไม่ค่อยเห็นผลมากนัก และหากเพิ่มลิงค์มากไปจนผิดปกติ ก็ยังอาจถูกกูเกิลลงโทษเอาได้
วันนี้ เราจึงได้ลองลิสต์สาเหตุหลักๆ ที่ทำให้ไม่ประสบความสำเร็จในการทำ SEO
มาให้ลองพิจารณาดู 3 ข้อด้วยกัน
1. เลือกคีย์เวิร์ดยากไปหรือเปล่า?
คีย์เวิร์ดกว้างๆ มักมีความยากกว่าเพราะมีคู่แข่งเป็นจำนวนมาก
หากเป็นเว็บไซต์เปิดใหม่ซึ่งมีอายุโดเมนน้อย หรือยังเป็นเว็บไซต์ขนาดเล็ก
ก็ยิ่งยากที่จะเอาชนะเว็บไซต์ที่เปิดมานานกว่าและมีจำนวนหน้ามากกว่า
คุณควรจะเริ่มจากคีย์เวิร์ดแคบๆ ที่เจาะจงก่อน เพราะจะมีโอกาสติดอับดับสูงๆ ง่ายกว่า
วิธีการวัดความยากของคีย์เวิร์ดง่ายๆ นั้นคือ ให้ดูจากจำนวนรายการผลการค้นหา
ของคีย์เวิร์ดนั้นๆ ถ้าหากมีจำนวนไม่เกิน 5 ล้านรายการ ถือว่ามีความยากในระดับที่ต่ำอยู่
2. คอนเทนท์ของเว็บไซต์ซัพพอร์ตการทำ SEO หรือเปล่า?
คอนเทนท์ที่น้อยเกินไปอาจไม่เพียงพอในการช่วยให้ติดอันดับบนหน้าแรกได้
รวมทั้งเว็บไซต์ที่มีรูปภาพอยู่มากมาย แต่แทบจะไม่มีเนื้อหาที่เป็นตัวอักษรอยู่เลย
กูเกิลอาจจะมองว่าเป็นเว็บไซต์ที่ไม่มีคุณภาพพอและไม่ใช่สิ่งที่ยูสเซอร์กำลังค้นหา
จึงไม่ถูกจัดขึ้นมาในอันดับต้นๆ ดังนั้น คุณจำเป็นต้องเพิ่มคอนเทนท์ให้กับเว็บไซต์
ทั้งในหน้าที่เป็นหน้าเป้าหมาย รวมทั้งหน้าอื่นๆ ภายในเว็บไซต์ด้วย
เพื่อให้มาซัพพอร์ตคีย์เวิร์ดที่ทำ SEO อยู่
ถ้าถามว่าต้องเพิ่มคอนเทนท์ขนาดไหนถึงจะเพียงพอ?
คือตอบคือ ให้คุณลองสำรวจเว็บไซต์คู่แข่งใน 10 อันดับแรกดู
โดยมากแล้ว เว็บไซต์เหล่านั้นมักมีคอนเทนท์ที่ดี มีเนื้อหาที่เป็นประโยชน์
และมีปริมาณที่มาก ถ้าอยากให้เว็บไซต์ชนะคู่แข่งเหล่านั้น
คุณก็จำเป็นต้องสร้างคอนเทนท์ให้เทียบเท่าหรือเหนือคู่แข่งให้ได้
3. ได้อัพเดทเว็บไซต์บ้างหรือเปล่า?
การทำ SEO ที่มีประสิทธิภาพอีกอย่างหนึ่งก็คือ การเพิ่มคอนเทนท์ให้กับ
เว็บไซต์อย่างสม่ำเสมอ แต่กลับเป็นสิ่งที่หลายคนมองข้ามไป
เพราะไม่รู้ว่าจะเพิ่มเนื้อหาอะไรหรือไม่มีเนื้อหาให้เพิ่มอีกแล้ว
แต่เราอยากให้คุณลองพยายามหาไอเดียดู คุณไม่จำเป็นต้องเขียนบทความที่ดีเยี่ยม
แต่ขอให้เน้นที่ความถี่ของการอัพเดทก็พอ
แนวทางการอัพเดทเว็บไซต์มีอยู่หลายวิธี ยกตัวอย่างเช่น
หากเป็นเว็บไซต์องค์กร ก็อาจจะอัพเดตเกี่ยวกับข่าวสารหรือกิจกรรมต่างๆ ในองค์กร
หากเป็นเว็บไซต์ที่ให้บริการต่างๆ ก็สามารถเพิ่มผลงานใหม่ๆ ของคุณในเว็บไซต์ก็ได้
หากเป็นเว็บไซต์ขายสินค้า คุณสามารถลงบทความหรือรีวิวที่มีประโยชน์เกี่ยวกับสินค้าของคุณ
แต่เนื้อหานั้น คุณจำเป็นต้องเขียนสรุปใจความใหม่เพื่อให้เป็นคอนเทนท์ของตัวเอง
ไม่ควรก็อปปี้จากที่อื่นแล้วมาลงในเว็บไซต์ของคุณ
เมื่อเว็บไซต์ติดอันดับในหน้าแรกแล้วก็อย่าชะล่าใจ คุณยังต้องคอยปรับปรุง
และพัฒนาคอนเทนท์ในเว็บไซต์อยู่เสมอ โดยควบคู่ไปกับการเพิ่มลิงค์ที่มีคุณภาพ
อย่างเป็นธรรมชาติ ซึ่งเป็นการทำ SEO ที่ยั่งยืน