Search Intent คืออะไร? อยากทำ SEO ให้ปัง ต้องรู้สิ่งนี้

Search Intent เป็นสิ่งสำคัญสำหรับคนทำคอนเทนต์ SEO ที่จะช่วยให้เนื้อหาในเว็บไซต์ของเราสามารถตอบคำถาม ช่วยแก้ปัญหา และตรงกับสิ่งที่กลุ่มเป้าหมายอยากอ่านได้  วันนี้ บริษัท อาอุน ไทย จะขอพามารู้จักกับ Search Intent ว่าคืออะไร สำคัญอย่างไร พร้อมเทคนิคการเขียนคอนเทนต์ให้สอดรับกับ Search Intent ถ้าพร้อมแล้วไปเริ่มกันเลย

Search Intent คืออะไร?

Search Intent หรือที่เรียกอีกอย่างว่า User Intent คือจุดประสงค์ในการค้นหาของผู้ใช้ ว่าต้องการหาอะไร โดยใช้คีย์เวิร์ด (Keyword) ค้นหาบน Search Engine ความต้องการก็อาจจะมีหลายแบบ เช่น การหาข้อมูล การอ่านรีวิวสินค้า หรือการหาซื้อสินค้า

สำหรับการทำ SEO (Search Engine Optimization) แล้ว การผลิตคอนเทนต์ให้ตอบความต้องการของผู้ใช้นั้นสำคัญมาก เพราะนั่นหมายถึงเป็นคอนเทนต์ที่มีประโยชน์ มีคุณค่าและตรงใจคนอ่าน ซึ่งจะทำให้หน้าคอนเทนต์ติดอันดับผลการค้นหาได้ดีนั่นเอง

Search Intent สำคัญอย่างไรกับ SEO?

สำหรับ Search Engine โดยเฉพาะบน Google หากอยากมีอันดับเว็บไซต์ที่ดีด้วยการทำ SEO คอนเทนต์ที่เราผลิตขึ้นก็ควรจะต้องเกี่ยวข้องกับคีย์เวิร์ด มีประโยชน์ ตอบความต้องการหรือปัญหาของผู้ใช้ตาม Search Intent และสามารถเข้าถึงได้ ตามเป้าหมายที่ Google ตั้งไว้ เพราะคงไม่ดีแน่หากผู้ใช้งานค้นหาข้อมูลด้วยคีย์เวิร์ดคำหนึ่ง แต่ผลลัพธ์ที่ได้มาดันไม่ตรงกับสิ่งที่ต้องการ การค้นหานั้นก็คงจะสูญเปล่า

ที่จริงเราสามารถใช้ประโยชน์จาก Search Intent ได้หลายอย่าง เช่น

• การทำ Keyword Research เพื่อเลือกคีย์เวิร์ด และวางแผนว่าจะเขียนหัวข้ออะไรที่ผู้คนสนใจและเกี่ยวข้องกับธุรกิจหรือเว็บไซต์ของเรา
• การวางแผนทำคอนเทนต์ เพื่อเขียนในสิ่งที่สอดคล้องกับหัวข้อ ครอบคลุมและตอบโจทย์ผู้อ่านให้มากที่สุด ด้วยข้อมูลที่ครบ ไม่ต้องให้ผู้อ่านไปหาจากหลาย ๆ เว็บ

อ่านมาถึงตรงนี้ก็คงจะสนใจเพิ่มขึ้นแล้ว ถัดมาลองมาดู 4 ประเภทหลัก ๆ ของ Search Intent กันว่ามีแบบไหนบ้าง

Search Intent มีกี่ประเภท?

1. Informational Keyword สำหรับหาข้อมูล

Search Intent แบบแรกที่เรียกว่า Informational Keyword นั้น คือการค้นหาข้อมูลเพื่อตอบข้อสงสัยบางอย่าง อาจเป็นคำถาม ปัญหาที่เกิดขึ้น หรืออาจจะเป็นคำสั้น ๆ เพื่อหาข้อมูลแบบกว้าง ๆ เร็ว ๆ ไม่ได้แสดงความเจาะจงมาก ผลลัพธ์ที่แสดงก็จะออกมาค่อนข้างหลากหลาย โดยมักจะเป็นคำคีย์เวิร์ดง่าย ๆ เช่น 

• search Intent คือ
• วิธีทำ seo
• ทัวร์ญี่ปุ่น
• เที่ยวญี่ปุ่น ที่ไหนดี

2. Navigational Keyword เจาะจงไปยังที่ที่ต้องการ

สำหรับการกดเข้าหน้า Google ไปแล้วพิมพ์เสิร์ชช่องค้นหาด้วยชื่อแบรนด์ หรือชื่อเว็บไซต์ แทนการพิมพ์ URL ยาว ๆ บน Address Bar หรือแม้แต่การค้นหาสถานที่ นี่เรียกว่า Search Intent แบบ Navigational Keyword โดยส่วนใหญ่การค้นหาประเภทนี้ สำคัญสุด ๆ สำหรับธุรกิจและแบรนด์ เพราะหากมีคนเสิร์ชหาชื่อแบรนด์ แล้วมีผลการค้นหาขึ้นมาเป็นอันดับบน ๆ ก็จะช่วยเพิ่ม Traffic (จำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์) ได้เป็นอย่างดี เช่น 

• facebook
• บริษัท อาอุน ไทย
• เช็คอินออนไลน์ การบินไทย
• เคาน์เตอร์การบินไทย สุวรรณภูมิ

3. Commercial Keyword หาตัวเลือกหลาย ๆ ทางเพื่อตัดสินใจ

หลาย ๆ คนคงเคยเข้า Google ไปเพื่อหารีวิว ความเห็นตามเว็บไซต์ต่าง ๆ ก่อนจะตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าอะไรสักอย่างที่สนใจ Search Intent แบบนี้คือ Commercial Keyword ซึ่งผู้ใช้นั้นกำลังอยู่ในช่วงตัดสินใจและลังเล จึงมีการค้นหาข้อมูลเปรียบเทียบข้อดีข้อเสีย ว่าตัวเลือกไหนที่ดีและเหมาะสมที่สุด เช่น

• รีวิว iphone 14
• ร้านอาหาร สยาม
• netflix vs prime video
• ทัวร์ญี่ปุ่น บริษัทไหนดี

4. Transactional Keyword ค้นหาเพื่อซื้อ

ตัดสินใจได้แล้ว พร้อมจะสั่งซื้อ หรือมี Action อย่างการกดติดตามหรือสมัครสมาชิก การค้นหาเจาะจงลักษณะนี้จะเรียกว่า Transactional Keyword เรียกได้ว่ากลุ่มคนที่ค้นหาด้วย Search Intent แบบนี้สำคัญต่อการทำธุรกิจและการทำการตลาดมาก เพราะเป็นกลุ่มที่มีโอกาสเกิด Conversion Rate สูง และน่าจะซื้อสินค้าบริการนั่นเอง เช่น

• ซื้อ iphone 14
• จองตั๋วเครื่องบิน การบินไทย
• ทัวร์ญี่ปุ่น ราคา
• รับทำ seo ราคาถูก

จะเห็นได้ว่า Search Intent นั้นมีหลายประเภทที่ต่างกันตามจุดประสงค์การค้นหาข้อมูลของผู้ใช้ นอกจากนี้ เราก็มีเทคนิคการทำคอนเทนต์ให้ตรงใจ ตอบโจทย์ Search Intent ผู้ใช้ได้ไม่ยาก ไปอ่านกันต่อเลย

ทำคอนเทนต์อย่างไรให้ตรงกับ Search Intent?

1. เช็คผลการค้นหาก่อนทำคอนเทนต์

ก่อนจะวางแผนเขียนคอนเทนต์สักหนึ่งหัวข้อ ให้เช็คสิ่งที่เรียกว่า SERPs (Search Engine Results Page) ก่อน ซึ่งจะเป็นหน้าผลลัพธ์การค้นหาบน Google เพราะเมื่อ Search Intent ต่างกัน ลักษณะผลการค้นหาก็จะต่างกัน เช่น บทความ เว็บไซต์ขายสินค้า วิดีโอ

แนะนำให้เช็คว่าคีย์เวิร์ดที่เราสนใจทำ มีผลการค้นหาที่ติดอันดับในหน้าแรกเป็นอย่างไร คอนเทนต์ที่ตอบโจทย์คำนั้น ๆ เป็นรูปแบบไหน เพื่อให้สามารถวางแผนเขียนคอนเทนต์ขั้นถัดไปได้นั่นเอง

2. วิเคราะห์ความต้องการของผู้อ่าน

เมื่อรู้แล้วว่าผลลัพธ์ของ Search Intent ของคีย์เวิร์ดที่เลือกไว้เป็นแบบไหน สิ่งถัดไปก็ควรจะมาดูเรื่องเนื้อหาที่เหมาะสม เป็นการวิเคราะห์ความต้องการของผู้อ่านว่าอยากจะรู้อะไรจากบทความของคู่แข่งบ้าง การทำคอนเทนต์ก็จะต้องวางแผนให้ครอบคลุมสิ่งที่คู่แข่งมีในลักษณะนั้น และควรให้ “มากกว่า” ด้วย

รูปแบบคอนเทนต์ เช่น

• บทความ How To, วิธีการ
• บทความรีวิว
• หน้าเว็บ Landing Page
• บทความเปรียบเทียบ

3. ใช้ LSI Keywords ให้เป็นประโยชน์

จะเขียนคอนเทนต์ยังไงให้ตอบโจทย์ทั้งจุดประสงค์การค้นหาแล้วยังเสริม SEO ด้วย แนะนำว่านอกจากการสอดแทรกคีย์เวิร์ดหลักเข้าไปในบทความแล้ว ก็ควรใช้ LSI Keywords (Latent Semantic Indexing) เพื่อช่วยให้ Google เข้าใจคอนเทนต์ของเรามากขึ้น

ยิ่งมีคำที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาและตรงกับ Search Intent มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีแนวโน้มที่เว็บไซต์เราจะติดอันดับที่ดีได้มากขึ้นเท่านั้น เช่น คีย์เวิร์ดคำว่า “บัตรเครดิต” LSI Keywords ก็คือ เงิน, สะสมแต้ม, วงเงิน, อัตราดอกเบี้ย เป็นต้น

4. เขียนคอนเทนต์ให้ดี ครอบคลุม

สุดท้ายนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับการทำคอนเทนต์ ก็คือต้องเขียนให้ดี ครอบคลุมเนื้อหาที่น่าจะตอบโจทย์ Search Intent มากที่สุด เพื่อให้คอนเทนต์นั้นโดดเด่น สอดรับกับหลัก SEO และช่วยเพิ่มอันดับได้นั่นเอง เช่น

• สอดแทรกคีย์เวิร์ดไว้ใน Title, Meta Description, H1 (Main Heading), H2 (Sub-heading)
• ใส่รูปภาพประกอบพร้อมใส่ Alt Text พร้อมคีย์เวิร์ด
• เชื่อม Internal Links ไปยังหน้าอื่น ๆ ภายในเว็บไซต์ของเราเอง
• ใส่ Reference External Link ไปยังแหล่งข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือ