“Web Usability” กับ “SEO”
กูเกิลได้อัพเดต Page Layout Algorithm ซึ่งจะลดคะแนนของเว็บไซต์ที่มีโฆษณามากเกินไปในส่วนบนของหน้าเว็บ
หากเว็บไซต์ของเราออกแบบมาโดยเน้นให้ยูสเซอร์ดูได้ง่ายอยู่แล้ว Page Layout Algorithm นี้ก็ไม่มีปัญหาอะไรกับเว็บไซต์ของเรา
แต่บางครั้ง การที่จะต้องทำเว็บไซต์ออกมาให้ยูสเซอร์ใช้งานได้ง่าย (Web Usability) นั้น
ก็สวนทางกับจุดประสงค์ของเราที่ต้องการหารายได้จากโฆษณาในเว็บไซต์ หรือบางครั้งที่พอสร้างเว็บไซต์โดยยึดตามหลัก SEO ให้เสิร์ชเอ็นจิ้นอ่านได้ง่าย
โดยไม่ได้สนใจเรื่อง Web Usability เว็บไซต์ที่ออกมาจึงใช้งานยากในความคิดของยูสเซอร์
วันนี้ เราจึงขอแนะนำแนวทางการทำ SEO โดยที่ไม่ทำให้สูญเสีย Web Usability
●ติดตั้ง Breadcrumb
Breadcrumb คือ ส่วนที่บอกให้ยูสเซอร์เข้าใจได้ง่ายว่ากำลังดูหน้าเว็บไหนอยู่ในขณะนั้น
ซึ่งจะอยู่ในรูปแบบของลิงค์เชื่อมโยงภายในเว็บไซต์ (Internal link)
เช่น HOME>Company Profile>Achievements
Breadcrumb นอกจากจะช่วยบอกตำแหน่งปัจจุบันในเว็บไซต์ของยูสเซอร์ด้วยแล้ว
ยังช่วยเพิ่มค่าคะแนนให้กับการทำ SEO ได้ด้วย เพราะช่วยเพิ่มความเชื่อมโยงของลิงค์ภายในเว็บไซต์
●สร้าง Navigation Bar ที่ดูเข้าใจง่าย
บางคนอยากใส่ลิงค์ไปยังหน้าเว็บที่สำคัญในด้าน SEO ทั้งหมดไว้ใน Navigation Bar
แต่หากเพิ่มหัวข้อเข้าไปมากเกินไป ก็จะทำให้ดูลิงค์ได้ยาก ในกรณีที่มีหัวข้อที่ต้องการใส่เป็นจำนวนมาก
อาจจะต้องรวมให้เป็นหมวดหมู่หรือทำเป็นเมนูที่สามารถเลื่อนเก็บได้
●ไม่ควรใส่เท็กซ์หรือคีย์เวิร์ดซ้ำๆ กันมากเกินไป
การนำคีย์เวิร์ดมาเรียงต่อกันไปเรื่อยๆ หรือ การใช้ข้อความแบบเดียวกันซ้ำไปซ้ำมานั้น ไม่ได้ส่งผลดีในทาง SEO
นอกจากนั้น ยังทำให้ยูสเซอร์อ่านยากอีกด้วย กูเกิลให้คะแนนสูงกับ “เว็บไซต์ที่มีคุณภาพสูง” และ “เว็บไซต์ที่มีคุณค่ากับยูสเซอร์”
และจากการอัพเดท Page Layout Algorithm ในครั้งนี้ แสดงให้เห็นว่ากูเกิลก็กำลังให้ความสำคัญกับ “การใช้งานของเว็บไซต์” อีกด้วย
ดังนั้น เราจึงควรที่จะสร้างเว็บไซต์ที่มีคุณภาพในสายตาของยูสเซอร์ด้วย SEO มากกว่าที่จะมุ่งเน้นแค่เฉพาะเสิร์ชเอ็นจิ้น